การตรวจสุขภาพก่อนสมรส

หนังสือความรู้ก่อนสมรสนอ ได้จัดทำโดยคณาจารย์หน่วยอนามัยการเจริญพันธุ์และงานวางแผนครอบครัว ภาควิชาสูติศาสตร์นรีเวชวิทยา อาจารย์หน่วยโลหิตวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ และอาจารย์ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

การคุมกำเนิด

การคุมกำเนิด หมายถึง การป้องกันการเกิดหรือการปฏิสนธิ หรือการตั้งครรภ์ สรุปคือ ป้องกันหรือไม่ให้อสุจิในน้ำเชื้อของฝ่ายชายมีโอกาสเข้าไปผสมกับไข่ของฝ่ายหญิงภายในปีกมดลูก และป้องกันไข่ที่ผสมแล้วฝังตัวที่เยื่อบุโพรงมดลูก

เพศศึกษา

เพศสัมพันธ์ เป็นสิ่่งที่เกิดขึ้น เมื่อหญิงและชายมีความรักผูกพัน อยากอยู่ใกล้กันและกันและอยากสัมผัสกัน ความรู้สึกทางเพศเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ ยกเว้นหญิงและชายนั้นอายุมากจริงๆก็อาจไม่มีความต้องการทางเพศ

การตั้งครรภ์

การตั้งครรภ์ คือ ช่วงระยะเวลาเริ่มหลังจากการปฏิสนธิ โดยที่ตัวอสุจิ (sperm) ผสม (conceive) กับ ไข่ (egg)ในสภาวะและเวลาที่เหมาะสม จนถึงการคลอด โดยในมนุษย์ใช้เวลาในการตั้งครรภ์ 36 สัปดาห์ หรือ 9 เดือน

สุขภาพ

สุขภาพกายและสุขภาพจิตเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นสำหรับทุกชีวิตการที่จะดำรงชีวิตอยู่อย่างปกติก็คือ การทำให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ จิตใจมีความสุข ความพอใจ ...

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ลดหุ่น แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ลดหุ่น แสดงบทความทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ลดหุ่นให้เข้าที่


ลดหุ่นให้เข้าที่ ด้วย 35 วิธี

1.หลีกเลี่ยงการทานอาหารทอด ๆ และติดมัน
          อาหารทอด ๆ มาพร้อมกับน้ำมัน เช่นเดียวกับอาหารเนื้อสัตว์ติดมัน เช่น กุนเชียง หมูสามชั้นทอดกรอบ หนังไก่ กากหมู ถ้าไม่อยากอ้วน อดใจไว้

2.รับประทานผัก-ผลไม้มาก ๆ
          อย่าละเลยการรับประทานผัก-ผลไม้เด็ดขาดค่ะ เพราะผักผลไม้มีทั้งเส้นใย และสารอาหารต่าง ๆ ที่ดีกับคุณสาว ๆ แถมทานมากเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนด้วย

3.ทานดาร์กช็อกโกแลต
          แนะนำให้คุณทานช็อกโกแลต แต่ต้องเป็นดาร์ก ช็อกโกแลตเท่านั้น ถึงจะมีสารแอนตี้ออกซิเดนท์ และเป็นประโยชน์กับร่างกายของคุณสาว ๆ

4. ดื่มน้ำอย่างน้อย 1 แก้วหลังตื่นนอน
          จำ และทำให้เป็นนิสัย เพราะการดื่มน้ำอย่างน้อย 1 แก้ว ทันทีหลังจากที่คุณเพิ่งตื่นนอน จะทำให้ร่างกายสดชื่นขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังจะช่วยให้ระบบขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายทั้งหนักทั้งเบา ทำงานได้อย่างคล่องตัว

5.ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
          แทบจะทุกบทความ ที่แนะนำให้คุณดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 8-12 แก้ว เพราะน้ำจะช่วยเร่งระบบการเผาผลาญ จึงช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินให้คุณด้วย ซ้ำยังช่วยให้คุณอิ่มเร็วขึ้นด้วย หากคุณดื่มน้ำ 1 แก้ว ก่อนทานอาหารทุกครั้ง แต่อย่าชะแว้บ! ไปมอง "น้ำอัดลม" หรือ "น้ำผลไม้" เชียว ยกเว้น "น้ำมะนาวผสมน้ำผึ้ง" ที่เราแนะนำให้คุณดื่มได้

6.ทานอาหารเช้า
          จำได้ไหมว่า อาหารเช้าคืออาหารมื้อสำคัญที่สุดของวัน ถ้าหากคุณสาว ๆ พลาดอาหารเช้าในช่วงเวลา 6.00-10.00 น.ไปล่ะก็ คุณอาจจะรู้สึกหิวในมื้อต่อ ๆ ไปมากขึ้น ทีนี้ล่ะ คุณอาจจะเผลอตัวเผลอใจสวาปามอาหารที่อยู่ตรงหน้าโดยไม่ยั้ง แล้วจะลดน้ำหนักได้อย่างไรล่ะจ๊ะ

7.กินเพื่ออยู่ ไม่ใช่อยู่เพื่อกิน
          การไดเอท ไม่ได้สำคัญที่ว่าคุณทานอะไรเข้าไป แต่สำคัญที่ว่า ทำไมคุณถึงทานเข้าไปต่างหาก ฉะนั้นแล้ว หากใครชอบกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ เพียงเพื่ออยากทานสิ่งนั้น จงเปลี่ยนพฤติกรรมด่วนค่ะ ทานให้แต่พออิ่มจะดีกว่า และควรทานเมื่อเวลาที่หิวจริง ๆ 

8.อย่ากักตุนอาหารในตู้เย็น
          หากไม่อยากอ้วน กำจัดของกินในตู้เย็นโดยด่วน คุณจะได้ไม่เผลอหยิบติดมือมาทานได้ง่ายเกินไปนั่นเอง แต่ถ้าอยากจะมีอาหารติดในตู้เย็น แนะนำว่า ผักผลไม้ และบรรดาอาหารเพื่อสุขภาพทั้งหลายจะเวิร์กที่สุด

9.อย่ากินไป ดูทีวีไป
          รู้หรอกน่า ว่าคุณสาว ๆ ชอบกินนั่น กินนี่ กินจุบกินจิบทั้งวันไม่เป็นเวลา โดยเฉพาะเวลานั่งดูโทรทัศน์ หรือนั่งอ่านหนังสือ มักจะหาอะไรติดไม้ติดมือเข้าปากเป็นประจำ แต่นั่นแหละค่ะ การที่คุณสาว ๆ หยิบคุ้กกี้บ้าง ขนมปังกรอบบ้าง มันฝรั่งทอดบ้าง เข้าปากแต่ละที คุณจะเพลินจนลืมเรื่อง "อ้วน" ไปชั่วขณะเลยทีเดียว
10. ใส่ใจ "ข้าวกล้อง" กันให้มากขึ้น
         หากคุณทาน "ข้าวกล้อง" คุณจะได้ทั้งคาร์โบไฮเดรต วิตามิน เกลือแร่มากมายจากเยื่อหุ้มและจมูกข้าวที่ไม่ได้ถูกขัดสีออกไป ไม่เหมือน ข้าวขาวที่มีแต่คาร์โบไฮเดรตเท่านั้น
11.หาเพื่อนร่วมอุดมการณ์ไดเอท
         ลองหาเพื่อนที่มีแนวคิดเดียวกัน แล้วชวนมาลดความอ้วนด้วยกันดีกว่า เพราะการมีเพื่อนหัวอกเดียวกัน จะทำให้คุณมีกำลังใจขึ้นอีกเยอะเลย

12.ออกกำลังกายสำคัญสุด ๆ
          เพราะมันจะช่วยรักษาน้ำหนักให้คงที่ในระยะยาวได้ แถมยังจะช่วยให้คุณเผาผลาญแคลอรีให้กลายเป็นพลังงานได้คราวละมาก ๆ ด้วย หากคุณสาว ๆ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ลองหาเวลาเดินวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน นอกจากคุณจะควบคุมน้ำหนักได้ดีแล้ว ยังจะมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงอีกด้วย
 13."น้ำตาล" และ "เกลือ" จอมวายร้าย
          "น้ำตาล" เป็นสาเหตุที่ทำให้คุณมีปัญหาเรื่องน้ำหนัก เพราะฉะนั้นบรรดาของหวาน ลูกอม น้ำอัดลม เค้กต่าง ๆ จงงดเสีย!!! ให้ดื่มน้ำมะนาวแทน หรือทานน้ำตาลที่มาจากผลไม้จะดีกว่า เช่นเดียวกับ "เกลือ" ที่เราควรได้รับโซเดียมวันละไม่เกิน 1 ช้อนชาเท่านั้น แต่เกลือ หรือโซเดียมที่ผสมอยู่ในขนมต่าง ๆ อาหารฟาสต์ฟู้ดส์ รวมทั้งซุปที่ทานเข้าไปในแต่ละวัน ล้วนเกินปริมาณที่กำหนด จึงเป็นสาเหตุให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง และทำให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพมากมายตามมาได้

 14.เคี้ยวช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม
           เพราะจะทำให้สมองมีเวลาที่จะส่งสัญญาณไปบอกให้ท้องรู้สึกอิ่มได้แล้ว กลับกันคนที่เคี้ยวเร็ว กินเร็ว จะไม่รู้สึกอิ่มแม้ทานอาหารหมดจานแล้ว และเมื่อท้องไม่อิ่ม คุณสาว ๆ ก็มักจะมองหาของหวานตบท้ายมื้ออาหาร ซึ่งจะนำความอ้วนมาสู่ร่างกายของคุณอย่างชัวร์ ๆ

 15.สรรหาจานสีเข้ม ๆ
          มีผลการศึกษาระบุว่า การใช้จานอาหารสีสดใสจะช่วยกระตุ้นให้คุณอยากทานอาหารมากขึ้น กลับกันหากคุณใช้จานอาหารสีเข้ม ๆ โดยเฉพาะสีน้ำเงิน จะทำให้คุณลดความอยากอาหารลงไปได้ และนี่เองจะช่วยสกัดกั้นไม่ให้คุณทานมาก จะได้ไม่ต้องลดน้ำหนักอย่างเอาเป็นเอาตายภายหลัง

 16. ใช้ภาชนะให้เล็กลง
          นอกจากใช้ภาชนะสีเข้ม ๆ แล้ว การเปลี่ยนจานให้เล็กลง ก็เป็นวิธีทางจิตวิทยา ที่ทำให้เรารู้สึกว่า อาหารมีปริมาณมากขึ้น ทำให้เรารู้สึกอิ่มได้เร็ว ไม่อยากหาอะไรทานอีก
 17.ลด "ชา" , "กาแฟ" , "ครีมเทียม" 
          การรับประทาน "ชา" , "กาแฟ" มากกว่าสองแก้วต่อวัน อาจทำให้คุณอ้วนได้ โดยเฉพาะหากใครชอบใส่ "ครีมเทียม" ในกาแฟ จะทำให้คุณได้รับแคลอรี่มากขึ้นโดยไม่รู้ตัว รวมทั้งกาแฟสดทั้งหลายด้วยล่ะ

 18.ระวัง!!! สลัดน้ำข้น
          สลัดน้ำข้นนั้นอุดมไปด้วยครีมนม และไขมันนม ซึ่งหากรับประทานเข้าไปมาก ๆ แม้จะทานกับผักก็เถอะ ร้อยทั้งร้อย "อ้วน" อย่างไม่ต้องสงสัย

 19.หลีกเลี่ยงไข่แดง ให้ทานไข่ขาว
          ไข่แดง อุดมไปด้วยคอเลสเตอรอล ที่เป็นบ่อเกิดของโรคหัวใจ และโรคอ้วน แต่ไข่ขาวไม่มีคอเลสเตอรอล ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานไข่แดง หรือทานในปริมาณน้อย และหันมาทานไข่ขาวแทน นอกจากนี้ หากวันไหนทานไข่มาก ๆ ก็ควรงดการทานอาหารที่มีไขมันสูงในมื้ออื่น ๆ ของวันเดียวกันด้วย เพื่อไม่ให้มีคอเลสเตอรอลสะสมในร่างกายมากเกินไป

 20.อย่าให้รางวัลตัวเอง ด้วยการไปทานอาหาร
            เพราะการที่คุณให้รางวัลกับความสำเร็จของตัวเอง ด้วยการไปรับประทานอาหารตามใจปาก อาจทำให้คุณอ้วนได้เหมือนกัน ทางที่ดีให้รางวัลกับตัวเองด้วยการทำสิ่งที่ตัวเองปรารถนา ยกเว้นเรื่องกิน!!! เช่น ไปช้อปปิ้ง ไปเที่ยวพักผ่อน นวดหน้า ทำผม ขัดผิว ฯลฯ จะดีกว่า
 21.จำไว้ อย่าอด
          เพราะยิ่งคุณอดอาหารเท่าไหร่ จะมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด แถมยังทำให้คุณหิวมากขึ้นมากขึ้น จนทำให้คุณสามารถทานได้มากกว่าปกติในมื้อต่อไป

 22.แบ่งทานบางส่วน ไม่ต้องทานให้หมด
         สำหรับกฎเกณฑ์ของการลดความอ้วน คุณไม่จำเป็นต้องทานหมดหรอกค่ะ โดยคุณควรจะแบ่งอาหารในจานไว้ 4 ส่วน แล้วทานเพียงแค่ 3 ส่วนก็เพียงพอแล้ว

 23.อย่าทานอะไรหลังมื้อเย็นอีก
          ไม่ดีแน่ หากคุณทานขนม หรืออาหารอะไรหลังจากคุณทานอาหารเย็นเรียบร้อยแล้ว ทางที่ดีคือ ควรจะให้ร่างกายได้พักผ่อนจากการย่อยอาหาร แล้วไปเริ่มทำงานใหม่ในมื้อเช้าของวันรุ่งขึ้นจะดีกว่า
 24.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
          ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะว่า หากคุณพักผ่อนนอนหลับไม่เพียงพอ อาจจะมีผลกระทบต่อฮอร์โมนเลปติน ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมความอยากอาหาร ดังนั้น อาจทำให้คุณยับยั้งชั่งใจในการรับประทานไม่อยู่ และอ้วนขึ้นได้ นอกจากนี้ หากคุณนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอแล้ว ก็สามารถช่วยให้ร่างกายกำจัดไขมันส่วนเกินออกไปได้เช่นกัน

25. ทานหลาย ๆ มื้อ (เล็ก ๆ) ในหนึ่งวัน
          ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า การทานอาหาร 4-5 มื้อเล็ก ๆ ในแต่ละวัน จะช่วยควบคุมระบบการเผาผลาญ และความอยากอาหารได้ดีกว่าการทานอาหารมื้อปกติ 3 มื้อ โดยระหว่างมื้ออาหาร คุณอาจทานสแน็ก หรือผลไม้ เพื่อให้คุณอิ่ม และไม่หิวมากจนกระทั่งถึงมื้อต่อไป ทีนี้ในมื้อต่อไป คุณก็จะทานอาหารได้น้อยลงแล้ว

 26. โปรตีน ตัวช่วยลดความอ้วน
          มีคำแนะนำให้ในแต่ละมื้ออาหารต้องมีอาหารประเภทโปรตีนผสมด้วย เพราะโปรตีนจะช่วยคงสภาพกล้ามเนื้อ และกระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น โดยโปรตีนที่แนะนำก็คือ อาหารจำพวกถั่ว นม โยเกิร์ตนั่นเอง

 27.เผ็ดหน่อย อร่อยดี
          การศึกษาพบว่า "พริก" ช่วยเพิ่มอุณหภูมิในร่างกาย และช่วยในการเผาผลาญ จึงมีประโยชน์เรื่องการควบคุมน้ำหนัก นอกจากนี้ การกินพริก จะไม่ทำให้รู้สึกอยากกินหวานอีก รับรองว่า กินพริกแล้ว ลืมเรื่องความอ้วนไปได้เลย

 28.ดื่มชาเขียว
          มหาวิทยาลัยสวิสเซอร์แลนด์พบว่า การดื่มชาเขียวเป็นทางหนึ่งที่ช่วยลดน้ำหนัก เพราะจะช่วยเรื่องการเผาผลาญแคลอรี่ได้ ดังนั้นควรพยายามดื่ม 3 ถ้วยต่อวัน แต่ขอเตือนไว้ก่อนว่า ต้องเป็นชาเขียวบริสุทธิ์จริง ๆ ไม่ใช่ชาเขียวในขวดที่มีส่วนผสมของน้ำตาลในปริมาณมาก แบบนี้ลดความอ้วนไม่ได้แน่นอนค่ะ

 29. ดื่มนม ก็ช่วยลดความอ้วน
          หากไม่ชอบดื่มชาเขียว จะลองหันมาดื่มนมก็ช่วยลดความอ้วนได้ เพราะนมเป็นแหล่งอุดมไปด้วยแคลเซียม ซึ่งมีการศึกษาพบว่า การที่ร่างกายได้รับวิตามินดีและแคลเซียมสูง จะช่วยให้น้ำหนักของเราลดลงได้ แถมนมยังทำให้เรารู้สึกอิ่มจนไม่อยากทานอาหาร หรือเครื่องดื่มอะไรที่มีน้ำตาลด้วย

 30.อ่านฉลากรายละเอียดของผลิตภัณฑ์
          ก่อนซื้ออาหารหรือเครื่องดื่ม ลองอ่านรายละเอียดที่ติดอยู่ข้างผลิตภัณฑ์ หีบห่อ ฯลฯ ดูก่อนทุกครั้ง เพราะมันจะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีแคลอรีสูง หรือไขมันสูงได้
 31..จดบันทึกประจำวันให้เป็นนิสัย
          แต่ละวันคุณกินอะไรไปบ้าง ลองจดบันทึกไว้ทุก ๆ สัปดาห์ดูสิ เพราะมันจะช่วยให้คุณยับยั้งชั้งใจ และควบคุมพฤติกรรมการรับประทานอาหารได้ดีเลยทีเดียว

 32.ทานผลไม้สด ดีกว่าผลไม้ดอง หรือน้ำผลไม้ปั่น
          น้ำผลไม้ปั่นมักผสมน้ำเชื่อม น้ำตาล ทำให้คุณสาว ๆ ได้รับน้ำตาลเกินความจำเป็น ขณะเดียวกัน ผลไม้ดอง ก็อาจมีสารแซคคารีน หรือที่เรียกว่าขัณฑสกรผสมอยู่ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เพราะฉะนั้น ถ้าอยากได้วิตามินที่ครบถ้วน เลือกทานผลไม้สดดีกว่าแน่นอนค่ะ

 33.ความเครียด คือ จุดอ่อน
          เมื่อฮอร์โมนความเครียดเพิ่มขึ้น ก็ทำให้ความต้องการอาหารในร่างกายเพิ่มขึ้น หรือทำให้หิวนั่นเอง แถมหิวบ่อยชนิดที่ไม่รู้ตัวเลยด้วย เพราะคนเครียดส่วนใหญ่มักจะจมอยู่กับความเครียด จนลืมสังเกตพฤติกรรมการกินของตัวเอง

 34.หัวเราะ ช่วยลดความอ้วน
          งานวิจัยระบุว่า การหัวเราะจะทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ขณะเราหัวเราะ จะหายใจเอาออกซิเจนเข้าไปได้มากขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อท้องได้ออกกำลังไปในตัว

35.ชั่งน้ำหนักอาทิตย์ละครั้ง
          ไม่จำเป็นที่คุณจะรีบร้อน ชั่งน้ำหนักตัวทุก ๆ วัน เพราะหากคุณลดไม่ได้ดังใจปรารถนาแล้ว จะยิ่งทำให้คุณเครียดเสียเปล่า ๆ เพราะฉะนั้น ชั่งน้ำหนัก และเปลือยกายสำรวจตัวเองในห้องน้ำอาทิตย์ละครั้งก็เพียงพอแล้วล่ะ
ลองไปใช้กันดู    แล้วก็ต้องปฏิบัติตามอย่างสม่ำเสมอด้วยล่ะ ถึงจะเห็นผลเร็ว