วันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

งาดำ : ธัญพืชมากคุณค่า


 

 ประโยชน์ของงาดำ 

นั้นมีค่อนข้างหลากหลายเพราะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ อย่างวิตามินบี1 บี2 บี3 บี5 บี6 บี9 แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม โซเดียม ฟอสฟอรัส สังกะสี เหล็ก เป็นต้น โดยสามารถช่วยบำรุงร่างกายเกือบทุกสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็น ผม ผิวพรรณ กระดูก เล็บ ระบบขับถ่าย การบำรุงหัวใจ จึงเหมาะกับทุกวัย แม้กระทั่งเด็กที่มีอาการป่วยอยู่แล้ว หรือผู้หญิงที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยทอง งาดำจะจำเป็นอย่างมาก เพราะจะช่วยป้องกันโรคภาวะกระดูกพรุนอย่างได้ผล



 “เซซามิน” ในงาดำมีคุณประโยชน์ 8 ประการ คือ

1. ช่วยในการเผาผลาญ สลายไขมัน ลดความอ้วนเสริมสร้างกล้ามเนื้อ

2. ลดการดูดซึมและการสังเคราะห์คอเลสเตอรอล

3. ทำให้ระดับไขมันอยู่ในสัดส่วนพอดี

4. ช่วยในการทำงานของวิตามินอี

5. ช่วยป้องกันการเสื่อมของเซลล์ในระบบประสาท

6. ลดปฏิกิริยาความเครียด

7. ต้านอนุมูลอิสระ

8. ต้านการอักเสบ


สำหรับสรรพคุณ ในเรื่องการลดการอักเสบนั้นได้มีการค้นคว้าวิจัยสรรพคุณด้านนี้เป็นพิเศษใน เชิงลึก เพราะการอักเสบเป็นตัวการทำให้เกิดโรคข้อเสื่อมซึ่งเป็นโรคที่คนไทยเป็นมาก และสร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจปีหนึ่งมหาศาลในระยะแรกได้ทดลองกับกระดูก อ่อนของหมู พบว่าสารเซซามินที่สกัดจากงาดำสามารถยับยั้งการเสื่อมสลายของเนื้อเยื่อ กระดูกอ่อนที่ห่อหุ้มข้อต่าง ๆ ของร่างกายได้จึงเชื่อว่าจะมีสรรพคุณเช่นเดียวกันเมื่อนำมาใช้กับคนทั้งนี้ กำลังอยู่ระหว่างการเริ่มทดลองขั้นสูงในระดับคลินิกต่อไป
ปัจจุบันงาดำที่จำหน่ายอยู่ในท้องตลาด  อาจอยู่ในรูปของสารสกัดที่เป็นแคปซูล ดังนั้นประชาชนทั่วไปอาจทำกินเองได้ ด้วยการคั่วแล้วบดวันละไม่เกิน 4 ช้อนชา สิ่งสำคัญคือต้องควบคุมคุณภาพให้ได้ แต่ ปัญหาคือ การคั่วนาน ๆอาจทำให้เกิดสารพิษที่ทำให้ก่อมะเร็งได้ ของบางอย่างเมื่อถูกความร้อนของดีกลายเป็นของไม่ดี กลายเป็นสารพิษได้ และการเก็บไว้นาน ๆ อาจเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ทำให้มีกลิ่นเหม็นหืน

การรับประทานงาดำเพื่อให้มีประโยชน์ต่อร่าง กายมากที่สุด ก็คือการรับประทานงาดำเป็นอาหาร แทนที่จะรับประทานงาดำที่เป็นสารสกัด โดยวิธีที่ดีที่สุดก็คือ--การรับประทานด้วยวิธีการเคี้ยว--จะได้ประโยชน์มากที่ สุด
 
 งา ดำ 
จึงถูกนำมาเป็นจุดเด่น จุดขาย ที่จะนำมาใช้เพื่อเป็นการป้องกันผมหงอก หรือผมหงอกแล้วก็ให้ผมหงอกน้อยลง ก่อนที่จะหงอกก่อนวัย เพราะสรรพคุณของงาดำ นั้นมีสารอาหาร มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวประมาณ 80 เปอร์เซนต์ 
สำหรับงา 100 กรัม ให้แคลอรี่ 582 แคลอรี่ ไขมัน 52.8 กรัม คาร์โบไฮเดรต 19.8 กรัม เส้นใยอาหาร 5.4 กรัม โปรตีน 17.2 กรัม แคลเซียม 750 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 614 มิลลิกรัม เหล็ก 12.0 มิลลิกรัม วิตามินเอ 25 หน่วยสากล วิตามินบี 1 0.72 มิลลิกรัม วิตามินบี 2 0.17 มิลลิกรัม ไนอะซิน 5.1 มิลลิกรัม (จากกรมอนามัย ส่วนที่กินได้ 100 กรัม)

 จะเห็นว่า งาดำ มีคุณสมบัติมากมาย สารอาหารต่าง ๆ มากมาย แต่นอกจากจะรับประทานงาดำแล้วยังมีวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่ทำป้องกันผมหงอกก่อนวัยการที่ร่างกายจะสามารถสร้างเอนไซม์ไทโรซิเนส ซึ่งทำหน้าที่สร้างเม็ดสีผมได้อย่างเพียงพอนั้น คุณต้องได้รับวิตามินและแร่ธาตุต่อไปนี้ให้เพียงพออีกด้วย

1.ทองแดง พบมากในถั่วฝักยาว ถั่วแขก ถั่วลันเตา เมล็ดทานตะวัน ลูกเกด ลูกพลับ กล้วยตาก แครอท หัวไชเท้า เผือก มัน ผลไม้สดทุกชนิด
2.ไอโอดีน พบมากในอาหารทะเลทุกชนิด และอาหารที่ปรุงด้วยเกลือไอโอดีน
3.เหล็ก มีมากในปลา ลูกเกด ผักใบเขียว เช่น คะน้า ตำลึง กวางตุ้ง ผักบุ้ง ผักพื้นบ้าน เช่น มะเขือพวง ใบชะพลู ผักโขมหนาม และผักกูด
4.กรด โฟลิก พบมากในถั่วต่างๆ เช่น ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ถั่วแดง ถั่วดำ ผักใบเขียวเข้ม เช่น คะน้า ตำลึง ผักบุ้ง กวางตุ้ง แครอท ฟักทอง ไข่แดง และตับ
5.กรดแพนโทเทนิก หรือวิตามินบี 5 พบมากในข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ข้าวโพด แอ๊ปเปิ้ล
6.พาบา อยู่ในกลุ่มวิตามินบีรวม ซึ่งเป็นวิตามินเทียมที่ละลายในน้ำ พบมากในจมูกข้าวสาลี ข้าวกล้อง โยเกิร์ต และผักใบเขียว
7.ไบ โอติน เป็นหนึ่งในกลุ่มวิตามินบีคอมเพล็กซ์ พบมากในอาหารจำพวกถั่วเหลือง และซีเรียล (การกินยาปฏิชีวนะติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้การสังเคราะห์ไบโอตินในลำไส้ลดลง)

อาหารยับยั้งผมหงอกก่อนวัย1.สาหร่าย ทะเล นำมาปรุงเป็นอาหารจำพวกข้าวปั้น ต้มจืด หรืออบกรอบกินเป็นของขบเคี้ยวยามว่าง นอกจากจะช่วยยับยั้งผมหงอกก่อนวัยแล้ว ยังช่วยทำให้ผมดกดำด้วย เพราะอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก และไอโอดีน
2.งา โรยงาลงในอาหารในแต่ละมื้อ จะช่วยยับยั้งปัญหาผมหงอกก่อนวัยได้ เพราะในงามีไขมันจากธรรมชาติ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินอี และเกลือแร่
3.เครื่องดื่มสมุนไพร ปั่นแครอทหั่นหยาบ 1/2 ถ้วย หัวไชเท้าหั่นหยาบ 1/2 ถ้วย และน้ำเย็นจัด 1 ถ้วยเข้าด้วยกัน กรองเอาแต่น้ำใส่ในแก้ว ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ และเกลือป่น 1/4 ช้อนชา ดื่มทันที

สุดท้ายก็มีครีมแก้ผมหงอก จากตำรายากลางบ้าน เขียนโดย (พระเทพวิมลโมลี บุญมา คุณสัมปันโน ป.๙) วัดเบญจมบพิตร กรุงเทพมหานคร

 
ครีมแก้ผมหงอกท่าน ให้เอา ต้นบัวบก หนัก 4 ส่วน, หัวแห้วหมู หนัก 2 ส่วน, พริกไทยอ่อน หนัก 1 ส่วน, ตัวยาทั้ง 4 อย่างนี้ นำมาตากแดดให้แห้ง บดเป็นผง ผสมกับ น้ำผึ้งแท้ ปั้นเป็นลูกกลอนขนาดเท่าเม็ดพุทรา ใช้รับประทานเวลาก่อนอาหารเช้า-เย็น มีสรรพคุณทำให้ผมดำ ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ  


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น